วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

วัฒนธรรมประเพณี




วัฒนธรรมประเพณี
          ในอดีตชุมชนแวงน่าง  เป็นสังคมที่มีความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวในชุมชน  ชาวบ้านมีวิถีการทำนาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษเป็นชุมชนที่นับถือศาสนาพุทธ  ปฏิบัติตามฮีตคองประเพณีตามหลักศาสนามีกิจกรรมงานบุญที่ทำร่วมกับวัดมาก  สิ่งที่เชื่อมร้อยความสัมพันธ์ของคนให้ทำงานร่วมกัน  ดูแลช่วยเหลือกันจนเกิดประเพณีที่ดีงามที่ชาวอีสานเรียกว่า อีต12  หมายถึง  เดือนทั้ง  12  เดือน  ในหนึ่งปีสิ่งที่ชาวอีสานได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาในโอกาสต่างๆเป็นประเพณีที่ส่งเสริมให้คนในชุมชน  เป็นกิจกรรมที่ทำให้คนในชุมชนได้ออกมาพบเจอพบประสังสรรค์  เพื่อความรื่นเริง  มีความสามัคคีเกิดความรักใคร่กันของคนในชุมชนแวงน่าง  สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน  ประเพณีสำคัญ  12  เดือน  ของชาวอีสานโบราณนั้นประกอบด้วย
เดือนอ้าย  (ธันวาคมหรือเดือนเจียง งานบุญเข้ากรรม มีงานบุญดอกผ้า (นำผ้าห่มหนาวไปถวายสงฆ์) ประเพณีเส็งกลอง ทำลานตี(ลานนวดข้าว)ทำปลาแดก (ทำปลาร้าไว้เป็นอาหาร) เกี่ยวข้าวในนา เล่นว่าว ชักว่าวสนู นิมนต์พระสงฆ์เข้าประวาสกรรมตามประเพณีนั้นมีการทำบุญทางศาสนา เพื่ออนิสงฆ์ทดแทนบุญคุณต่อบรรพบุรุษ ชาวบ้านเลี้ยงผีแถน ผีบรรพบุรุษ มีการตระเตรียมเก็บสะสมข้าวปลาอาหารไว้กินในยามแล้ง
เดือนยี่  (มกราคมงานบุญคูนลาน ทำบุญที่วัด งานนมัสการหลวงปู่โล่  พระสงฆ์เทศน์เรื่องแม่โพสพ ทำพิธีปลงข้าวในลอมและฟาดข้าวในลาน ขนข้าวเหลือกขึ้นเล้า (ยุ้งฉาง) นับเป็นความเชื่อในการบำรุงขวัญและสิริมงคลทางเกษตรกรรม มีทั้งทำบุญที่วัดและบางครั้งทกบุญที่ลานนวดข้าว เมื่อขนข้าวใส่ยุ้งแล้วมักไปทำบุญที่วัด 
เดือนสาม  (กุมภาพันธ์)  บุญข้าวจี่ มีพิธีเลี้ยงลาตาแฮก(พระภูมินา) เพราะขนข้าวขึ้นยุ้งแล้ว งานเอิ้นขวัญข้าวหรือกู่ขวัญข้าว เพ็ญเดือนสามทำบุญข้าวจี่ตอนเย็นทำมาฆบูชา ลงเข็นฝ้ายหาหลัวฟืน  (ไม้เชื้อเพลิงลำไม้ไผ่ตายหลัว กิ่งไม้แห้ง(ฟืน)  ตามประเพณีหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวใส่ยุ้งแล้ว มีการทำบุญเซ่นสรวงบูชาเจ้าที่นา ซึ่งชาวอีสานเรียกว่าตาแฮก และทำบุญแผ่ส่วนกุศลให้ผีปู่ย่าตายาย อันเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยการทำข้าวจี่  (ข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนสอดไส้น้ำตาลหรือน้ำอ้อยชุบไข่ปิ้งจนเหลืองนำไปถวายพระพร้อมอาหารคาวหวานอื่นๆ 
เดือนสี่  (มีนาคมบุญพระเวส(อ่านออกเสียงพระ-เหวด) มีงานบุญพระเวส(ฟังเทศน์มหาชาติ) แห่พระอุปคุตตั้งศาลเพียงตา ทำบุญแจกข้าวอุทิศให้ผู้ตาย (บุญเปตพลี) ประเพณีเทศน์มหาชาติเหมือนกับประเพณีภาคอื่นๆ ด้วย เป็นงานบุญทางพุทธศาสนาที่ถือปฏิบัติทำบุญถวายภัตตาหารแล้วตอนบ่ายฟังเทศน์ เรื่องเวสสันดรชาดก ตามประเพณีวัดติดต่อกัน 2-3 วันแล้วแต่กำหนดในช่วงที่จัดงานมีการแห่พระอุปคุตเพื่อขอให้บันดาลให้ฝนตกด้วย 

เดือนห้า  (เมษายนบุญสรงน้ำ หรือเทศกาลสงกรานต์ ชาวอีสานเรียกกันว่า สังขานต์ ตามประเพณีจัดงานสงกรานต์นั้น บางแห่งจัดกัน 3 วัน บางแห่ง 7 วัน แล้วแต่กำหนดมีการทำบุญถวายภัตตาหารคาวหวาน หรือถวายจังหันเช้า-เพลตลอดเทศกาล ตอนบ่ายมีสรงน้ำพระ รดน้ำผู้ใหญ่ผู้เฒ่าก่อเจดีย์ทราย

เดือนหก  (พฤษภาคมบุญบั้งไฟ บางแห่งเรียก บุญวิสาขบูชา มีงานบุญบั้งไฟ (บุญขอฝน) บุญ
วิสาขบูชา วันเพ็ญเดือนหกเกือบตลอดเดือนหกนี้ ชาวอีสานจัดงานบุญบั้งไฟ จัดวันใดแล้วแต่คณะกรรมการหมู่บ้านกำหนดถือเป็นการทำบุญบูชาแถน  (เทวดาเพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลและความอุดมสมบูรณ์ของข้าวปลาอาหารในปีต่อไปครั้นวันเพ็ญหก  เป็นงานบุญวิสาขบูชาประเพณีสำคัญทางพุทธศาสนา มีการทำบุญฟังเทศน์และเวียนเทียนเพื่อผลแห่งอานิสงส์ในภพหน้า

เดือนเจ็ด  (มิถุนายน)  บุญชำฮะ  มีพิธีเลี้ยงตาแฮก  ปู่ตา  หลักเมือง  งานบุญเบิกบ้านเบิกเมือง  งานเข้านาคเพื่อบวชนาค  คติความเชื่อหลังจากหว่านข้าวกล้าดำนาเสร็จ  มีการทำพิธีเซ่นสรวงเจ้าที่นา เพื่อความเป็นสิริมงคลให้ข้าวกล้าในนางงอกงาม ต้องเตรียมเครื่องบวงสรวง ได้แก่ ทำกรวยกระทง  บรรจุคำพลู  คำหมาก  กล้วย  เผือก  มัน  ไก่  เหล้าขาว  บ้านที่กุลบุตรมีงานอุปสบทดแทนบุญคุณบิดามารดาและเตรียมเข้ากรรมในพรรษาขัดตาแหลวปักให้ทั่วนาทั้ ง ทิศเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายไม่ดีออกจากนาหรือครอบครัว
เดือนแปด  (กรกฎาคมงานบุญเข้าพรรษามีพิธีหล่อเทียนพรรษางานบุญเทศกาลเข้าพรรษา  แต่ละหมู่บ้านช่วยกันหล่อเทียนพรรษา  ประดับให้สวยงาม  จัดขบวนแห่เพื่อนนำไปถวายเป็นพุทธบูชา  มีการทำบุญถวายภัตตหาร เครื่องไทยทานและผ้าอาบน้ำฝน เพื่อพระสงฆ์จะได้นำไปใช้ตลอดเทศกาลเข้าพรรษา
เดือนเก้า  (สิงหาคมบุญข้าวประดับดิน  จัดงานวันแรม  14  ค่ำ  เดือน  นับแต่เช้ามืด ชาวบ้านจัดอาหารคาวหวาน หมากพลูบุหรี่ใส่กระทงเล็กๆ  นำไปวางไว้ตามลานบ้าน ใต้ต้นไม้  ข้างพระอุโบสถ  เพื่อเป็นการให้ทานแก่เปรตหรือวิญญาณที่ตกทุกข์ได้ยากตอนสายมีการทำบุญที่วัด ฟังเทศน์เป็นอานิสงส์ทำนายคางไก่ที่ต้มสุกแล้ว  ถ้าคางไก่ย่น  ทำนายว่า  ฝนไม่ดี  ถ้าคางไก่เรียบโค้งสวยงาม  ทำนายว่า  ฝนดี  ข้าวปลานาน้ำอุดมสมบูรณ์ 
เดือนสิบ  (กันยายนบุญข้าวสาก  ข้าวสาก  หมายถึง  การกวนกระยาสารท คล้ายงานบุญสลากภัตในภาคกลาง  จัดงานวันเพ็ญเดือน  10  นำสำรับคาวหวานพร้อมกับข้าวสาก  (กระยาสารท) ไปทำบุญที่วัดถวายผ้าอาบน้ำฝนและเครื่องไทยทาน  แต่ก่อนที่จะถวายนั้นจะทำสลากติดไว้ พระสงฆ์องค์ใดจับสลากใดได้ก็รับถวายจากเจ้าของสำรับนั้น ตอนบ่ายฟังเทศน์เป็นอานิสงส์
เดือนสิบเอ็ด  (ตุลาคม)  บุญออกพรรษา มีพิธีถวายผ้าห่มหนาวในวันเพ็ญ มีงานบุญตักบาตรเทโว  พิธีกวนข้าวทิพย์  พิธีลอยเรือไฟนับเป็นช่วงที่จัดงานใหญ่กันเกือบตลอดเดือน  นับแต่วันเพ็ญ มีการถวายผ้าห่มหนาวแต่พระพุทธพระสงฆ์  วันแรม  ค่ำ  งานบุญตักบาตรเทโว ตอนเย็นวันขึ้น   14  ค่ำ  มีพิธีกวนข้าวทิพย์ มีงานช่วงเฮือ  (แข่งเรือในวันเพ็ญมีงานแห่ปราสาทผึ้ง  พิธีลอย  เฮือไฟ (ไหลเรือไฟ)  เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มีทั้งงานบุญกุศลและสนุกสนานรื่นเริง 

เดือนสิบสอง  (พฤศจิกายนบุญกฐิน  ทำบุญข้าวเม่าพิธีถวายกฐินเมื่อถึงวันเพ็ญจัดทำข้าวเม่า(ข้าวใหม่)นำไปถวายพระ  พร้อมสำรับคาวหวานขึ้นตอนบ่ายฟ้งเทศน์เป็นอานิสงส์จัด         พิธีทอดกฐินตามวัดที่จองกฐินไว้  งานบุญในฮีตสิบสองนั้น  ตามหมู่ที่เคร่งประเพณียังคงจัดกันอย่างครบถ้วน




http://issuu.com/fonkotchakorn/docs/e-book (คลิ๊กเพื่อชม E-book)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น